พื้นที่ทำเลการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยมในกรุงเทพฯ

ประเทศไทย ประเทศที่สวยงามตั้งอยู่ในใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ได้สร้างความอุดมสมบูรณ์ของธุรกิจและโอกาสการค้ากับประเทศจีนและประเทศอื่นๆในอาเซียน  โดยเฉพาะโครงการริเริ่มระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรือ (ECC) ที่ประเทศไทยพยายามใช้ประโยชน์จากโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกแห่งนี้
แผนการพัฒนาขนาดใหญ่เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยไปไกลอีกขั้นหนึ่ง  อย่างไรก็ดี ด้วยการเกื้อหนุนจากภาครัฐ เช่นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หลากหลาย และเป็นโอกาสที่ดีในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทย

เป็นเวลากว่าศตวรรษแล้วที่กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และการต้อนรับชาวต่างชาติมากกว่า 20 ล้านคนต่อปี ทำให้กรุงเทพฯได้รับการโหวตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลกโดย MasterCard’s annual Global Destination Cities Index 2018

ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์นี้ กรุงเทพได้ตั้งเป้าหมายด้านอสังหาฯ ในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้าถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของเมือง

ปัจจุบัน กรุงเทพฯ อยู่ลำดับที่ 7 ใน 10 อันดับเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก อ้างอิงจาก Oxford Economics 2018
ด้วยการไหลเข้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ควบคู่ไปกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งมูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อเปลี่ยนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในอาเซียน ซึ่งตลาดอสังหาฯในกรุงเทพกำลังเติบโตเป็นอย่างมากโดยเฉพาะบริเวณกรุงเทพชั้นใน ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นทุกปี

ในปีที่ผ่านมา  กรุงเทพได้ทำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง รวมถึงการต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าบนดินและใต้ดินหลายสายอีกด้วย

โดยปกติ ราคาอสังหาฯประเภทอยู่อาศัยคุณภาพสูงในกรุงเทพ จะต่ำกว่าของประเทศอื่นเช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน จึงเป็นโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีกำไรกับนักลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม กรุงเทพฯจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของนักลงทุนชาวจีน โดยเว็ปไซต์  Juwei.com

 

ถ้าคุณกำลังจะซื้ออสังหาฯในกรุงเทพฯ พื้นที่ต่อไปนี้เป็นย่านที่ได้รับความนิยมเพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯที่คุณสามารถพิจารณา

 

1. สยามและชิดลม

บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าหรูหลายแห่ง เช่น ห้างสยามพารากอน และห้างเซ็นทรัลเวิร์ล รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานที่ยอดนิยมอย่างศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ ซึ่งผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

ด้วยที่ตั้งทำเลที่สะดวกสบายอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ สยามจึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟฟ้าทั้งสองสายคือ BTS และ MRT ทำให้ราคาอสังหาฯบริเวณนี้มีราคาสูงขึ้น ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมหรูแห่งใหม่ที่ชิดลม จะเริ่มที่ 260,000 บาทต่อตาราเมตร ซึ่งเป็นที่นิยมของทั้งนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ราคาอสังหาฯบริเวณนี้ยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัดและหายาก

 

2. ลุมพินี

สวนลุมพินีเป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ล้อมรอบไปด้วยถนนเส้นต่าง ๆ อาทิ ถนนวิทยุ ซอยหลังสวน ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอสังหาฯบริเวณถนนวิทยุมีมูลค่าถึง 500,000 บาทต่อตรม. บริเวณนี้จึงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่คนมีฐานะสูงอาศัยอยู่

ปัจจัยที่ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีราคาสูง คือทำเลที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลาง พื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ มีความปลอดภัยและความสงบ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตหลายแห่ง และรายล้อมด้วยคอนโดหรูจำนวนมาก

 

3. สีลม/สาทร

ย่านสีลมและสาทรเป็นที่ตั้งของสถาบันทางการเงินและบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง รวมถึงมีสำนักงานจำนวนมาก ซึ่งตั้งอยู่รายล้อมแนวสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นที่นิยมของทั้งผู้อยู่อาศัยชาวไทยที่มีฐานะและชาวต่างชาติ เนื่องด้วยพื้นที่ตรงนี้เป็นย่านธุรกิจ เป็นแหล่งร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ราคาอสังหาฯบริเวณนี้จึงมีราคาสูง อีกทั้งผู้ที่อาศัยในย่านนี้สามารถเดินทางไปยังพื้นที่รอบกรุงเทพฯได้อย่างสะดวกสบาย
ราคาขายโดยเฉลี่ยในเขตสีลมอยู่ที่ 160,000 ถึง 275,000 บาทต่อตรม. ส่วนเขตสาทรจะอยู่ที่ 105,000 ถึง 250,000 บาทต่อตรม. ทั้งนี้ราคาขายก็ขึ้นอยู่กับสภาพของอสังหาฯ

 

4. นานาและอโศก

อโศกเป็นหนึ่งในย่านธุรกิจที่ศึกคักที่สุดในกรุงเทพฯ และเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ โรงแรม และร้านอาหารนานาชนิด พื้นที่นี้ยังเชื่อมต่อกับทั้งรถไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน นอกจากนี้สถานีรถฟ้าอโศกยังได้เชื่อมต่อกับห้างชื่อดังอย่าง Terminal 21 อีกด้วย
ในนานา คุณจะสามารถหาร้านอาการฮาลาลได้ง่าย ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมจำนวนมากโดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง
ทั้งสองที่นี้ยังเป็นที่รู้จักในย่านสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน เป็นแหล่งรวมคลับและบาร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตัวอย่างเช่น ในสุขุมวิทซอย 11 และ ซอยนานา เป็นต้น ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดชาวต่างชาติจำนวนมาก ราคาขายบริเวณนี้มีมูลค่าตั้งแต่ 140,000 ถึง 280,000 บาทต่อตรม. ทั้งนี้ราคาก็ขึ้นอยู่กับทำเลและคุณภาพของอสังหาฯ

 

5. ราชเทวี/พญาไท

เขตราชเทวีตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสยามหรือเขตศูนย์กลาง และอยู่ทางทิศตะวันออกของเขตดุสิตหรือเขตศูนย์กลางทางการเมืองของกรุงเทพ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีอัตราการอยู่อาศัยหนาแน่นที่สุดในกรุงเทพ พื้นที่นี้คุณจะไม่ค่อยเห็นชาวต่างชาติเหมือนที่สุขุมวิทหรือสีลม พื้นที่นี้อยู่ใกล้กับหน่วยงานราชการและองค์กรนานาชาติ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางกรุงเทพฯ

โดยเฉพาะอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและซอยรางน้ำที่อยู่ใกล้เคียงนั้นเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีคนจับจองมากที่สุดของเขตราชเทวี
นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อย่างห้าง King Power Complex ก็ตั้งอยู่ในบริเวณนี้
เขตพญาไทตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสยาม เชื่อมต่อทั้งสถานีรถไฟฟ้าบนดินและสถานีรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณนี้เป็นศูนย์รวมของทั้งที่อยู่อาศัยและสำนักงาน มีแหล่งชอปปิ้งและร้านอาหารราคาถูก มีห้างสรรพสินค้าเสื้อผ้าขายปลีกชื่อดังอย่างห้าง The Platinum Fashion Mall และยังใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ราคาอสังหาบริเวณนี้เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 220,000 ถึง 250,000 บาทต่อตรม.

 

6. สุขุมวิท

สุขุมวิทเป็นหนึ่งในถนนที่ยาวที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่ขยายจากใจกลางกรุงเทพฯไปยังชานเมืองด้านนอก แต่ยังวิ่งไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา

สุขุมวิทเป็นย่านที่ชาวต่างชาตินิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ย่านพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย เป็นย่านที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกปีโดยเฉพาะกับชุมชนชาวญี่ปุ่น  ทองหล่อและเอกมัยเป็นย่านไฮโซเนี่องจากรายล้อมไปด้วยร้านอาหารนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ไปจนถึงร้านเสต็กอเจนติน่า พร้อมพงษ์และสุขุมวิท 24 กำลังเป็นย่านที่อยู่อาศัยเนื่องจากทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางการขนส่ง สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า และโรงแรมเช่น Marriott และ Hilton

เอกมัย เป็นย่านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดื่มไวน์ และมีห้างที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า เรียกว่า Gateway Ekkamai และย่านนี้ยังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ทำให้อสังหาทำเลนี้เป็นที่นิยมและราคาสูงขึ้นตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมา ราคาอสังหาโดยเฉลี่ยในทำเลนี้ประมาณ 220,000 ถึง 300,000 บาทต่อตรม.

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถครบครองคอนโดมิเนียรอบนอกสุขุมวิทในราคาครึ่งหนึ่งของราคาคอนโดในเมือง ซึ่งราคาโดยเฉลี่ยประมาณ 120,000 ถึง 150,000 บาทต่อตรม.

 

7. ริเวอร์ไซด์

ชาวต่างชาติ, คนวัยเกษียณ รวมถึงผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังที่สอง เลือกที่จะอาศัยใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เพียงเพราะต้องการที่จะชื่นชมทิวทัศน์แม่น้ำ โดยปกติแล้วราคาอสังหาฯฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มที่จะต่ำลง เพราะว่าอสังหาฝั่งตะวันออกจะอยู่ใจกลางเมืองราคาจึงแพงกว่า

ผู้อยู่อาศัยฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถเดินทางเข้ามาในตัวเมืองได้โดยวิธี ขับรถส่วนตัวหรือนั่งแท็กซี่ข้ามสะพานหรือสามารถขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสิน หรือนั่งเรือข้ามแม่น้ำได้ ตึกสองฝั่งแม่น้ำเป็นที่ตั้งของโรมแรมห้าดาวมากมาย เช่น โรงแรม Mandarin Oriental, Shangri-La, Millennium Hilton,และ Peninsula นอกจากนี้ยังมีห้าง Icon Siam ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ล่าสุดของกรุงเทพฯเปิดเมื่อปีที่แล้วและได้รับการขนานนามว่าเป็น “Mother of all Malls”  ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมี Asiatique Riverfront ซึ่งเป็นตลาดนัดกลางคืนยอดนิยมของชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน

ในปัจจุบัน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกำลังกระตุ้นให้พื้นที่นี้มีชีวิตชีวามากขึ้น เนื่องจากอัตราการอยู่อาศัยในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนวัยเกษียณ ราคาขายของคอนโดมิเนียมบริเวณนี้เริ่มต้นที่ 290,000 บาทต่อตรม.

 

8. บางซื่อและเตาปูน

สถานีกลางบางซื่อเป็นหนึ่งในโครงการขนาดใหญ่ของไทยและเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการนี้จะเข้ามาแทนที่สถานีขนส่งที่หัวลำโพง ซึ่งจะมีขนาดพื้นที่ถึง 300,000 ตรม.เชื่อมต่อรถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เส้นทางรถไฟสามสายในเมือง และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนอกเมือง สถานีนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือน มกราคม 2564
รถไฟฟ้าความเร็วสูงชิโน-ไทย เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน ซึ่งจะก่อสร้างเส้นทางรถไฟจาก     คุนหมิง (ประเทศจีน) โดยจะผ่าน ลาว และไทย และมีแผนที่จะขยายเส้นทางไปประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ด้วยเหตุนี้ กรุงเทพฯจะเผชิญกับการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าที่ดินและจะดึงดูดนักพัฒนาอสังหาฯเข้ามาลงทุนในพื้นที่แห่งนี้

ด้วยการพัฒนาเหล่านี้ เขตบางซื่อจะเป็นพื้นที่ย่านธุรกิจและย่านที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้า 2 สายเชื่อมต่อไปยังกรุงเทพชั้นใน เช่น รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินที่สถานีบางซื่อ และสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน นักพัฒนาอสังหาฯไทยเชื่อว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะขยายการเติบโตของตลาดอสังหาฯและการพัฒนาใหม่ ๆ ในพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งจะมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกรุงเทพชั้นใน โดยราคาจะเริ่มที่ 90,000 ถึง 130,000 บาทต่อตรม. น่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน

9. หมอชิตและจตุจักร
   ย่านหมอชิต-จตุจักรมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับเขตบางซื่อ เป็นเขตที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว มีตลาดนัดสุดสัปดาห์อย่างตลาดจตุจักรซึ่งเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ และมีชื่อเสียงทั้งในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

10. บางนา

ทางด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพได้พัฒนาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการของการทำงานอย่างมืออาชีพไม่เพียงแต่ที่บางนา แค่ยังมีที่บางพลี บางบ่อ รวมถึงชลบุรี มีการพัฒนาของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ที่จะเพิ่มศักยภาพและมูลค่าของอสังหาฯ ในอนาคต นอกจากนี้บางนายังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์แถวนี้จึงมีราคาสูง รวมไปถึงมี ห้าง IKEA ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบางนาเพียง 6 กม. และกำลังจะมีห้าง Bangkok Mall ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเนื้อที่ประมาณ 650,000 ตรม. ล้อมรอบไปด้วยศูนย์การค้า โรงหนัง สถานที่จัดแสดงสินค้า สวนน้ำ ที่อยู่อาศัย และสำนักงาน

ด้วยศักยภาพของพื้นที่บริเวณนี้ ทำให้นักลงทุนชาวจีนหลั่งไหลเข้ามาซื้ออสังหาฯเป็นจำนวนมาก และในขณะเดียวกันนักพัฒนาอสังหาก็เริ่มที่จะซื่อที่ดินในย่านนี้เพื่อการพัฒนาในอนาคต ราคาอสังหาบริเวณนี้มีราคาเฉลี่ยที่ 120,000 ถึง 130,000 บาทต่อตรม.

นอกจากเรื่องทำเลที่ตั้ง ยังมีปัจจัยอย่างอื่น เช่น ชื่อเสียงของผู้พัฒนาอสังหาฯ และราคาขาย ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ  อสังหาฯที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าจะมีราคาสูง สองถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับอสังหาฯที่ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ปรึกษาตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของคุณเสมอในการลงทุนสินทรัพย์ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของคุณ